ลําดับที่ 1-100 ภาษาอังกฤษ เรียนรู้เข้าใจง่าย พร้อมคำแปลและวิธีใช้ในชีวิตจริง

ลําดับที่ 1-100 ภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษ การรู้จักและเข้าใจ “ลําดับที่ 1-100 ภาษาอังกฤษ” หรือเลขลำดับ (Ordinal Numbers) เป็นพื้นฐานสำคัญที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การบอกวันที่ การบอกตำแหน่งในลำดับ การจัดอันดับ หรือแม้กระทั่งการพูดถึงวันสำคัญต่าง ๆ การเรียนรู้เลขลำดับจึงช่วยให้เราสื่อสารได้ถูกต้อง ชัดเจน และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษหรือเรียนมานานแล้ว การทบทวนเลขลำดับก็ยังเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เสมอ

ความหมายของเลขลำดับในภาษาอังกฤษ

เลขลำดับในภาษาอังกฤษ (Ordinal Numbers) ใช้สำหรับแสดงตำแหน่งหรืออันดับของสิ่งต่าง ๆ เช่น first (ที่หนึ่ง), second (ที่สอง), third (ที่สาม) และต่อ ๆ ไปจนถึง one hundredth (ที่หนึ่งร้อย) ซึ่งต่างจากเลขจำนวนนับที่ใช้บอกจำนวน เช่น one, two, three โดยเลขลำดับจะลงท้ายด้วยตัวอักษรย่ออย่าง “st”, “nd”, “rd” หรือ “th” เช่น 1st, 2nd, 3rd, 4th โดยการใช้เลขลำดับช่วยให้เราบอกลำดับวันในเดือน เรียงลำดับเหตุการณ์ หรือพูดถึงอันดับของผู้ชนะได้อย่างถูกต้อง

ตารางลําดับที่ 1-100 ภาษาอังกฤษ

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เรามาดูตัวอย่างตารางเลขลำดับภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 100 โดยในตารางจะมีทั้งตัวเลข รูปแบบการเขียน และคำอ่าน เช่น 1st (first), 2nd (second), 3rd (third), 4th (fourth), 21st (twenty-first), 55th (fifty-fifth), 100th (one hundredth) ซึ่งรูปแบบการเขียนจะเปลี่ยนตามกฎภาษา เช่น เลขที่ลงท้ายด้วย 1 จะใช้ “st”, ลงท้ายด้วย 2 จะใช้ “nd”, และเลขที่ลงท้ายด้วย 3 จะใช้ “rd” ส่วนเลขอื่น ๆ จะใช้ “th” เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเลขพิเศษอย่าง 11th, 12th, 13th ที่ถึงแม้จะลงท้ายด้วย 1, 2, 3 แต่จะใช้ “th” แทน เพื่อให้การจำและใช้ไม่สับสน

วิธีกาสร้างเลขลำดับภาษาอังกฤษ

การสร้างเลขลำดับภาษาอังกฤษนั้นไม่ยาก เมื่อเรารู้กฎพื้นฐานแล้ว ตัวเลขหลักเดียวหรือหลักสิบที่ลงท้ายด้วย 1, 2, 3 จะเปลี่ยนรูปแบบตามกฎ เช่น 1 → 1st, 2 → 2nd, 3 → 3rd แต่เลขอื่น ๆ เช่น 4 → 4th, 5 → 5th ไปจนถึง 100 → 100th จะใช้ “th” ต่อท้าย นอกจากนี้ยังมีรูปแบบคำอ่านที่ควรจำไปพร้อมกัน เช่น twenty-first, thirty-second, forty-third ซึ่งมักใช้บ่อยในการระบุวันที่หรือเรียงลำดับกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในการเขียนจดหมาย เชิญงาน หรือรายงานทางการ

การใช้เลขลำดับในชีวิตประจำวัน

เลขลำดับในภาษาอังกฤษมีประโยชน์มากในการพูดหรือเขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การบอกวันเกิด: “My birthday is on the 15th of May.” หรือการบอกตำแหน่งผู้ชนะ: “She won the 1st prize.” หรือแม้แต่ในชื่อของงาน เช่น “The 10th Anniversary Celebration” ซึ่งการใช้เลขลำดับช่วยให้ประโยคมีความชัดเจนและเป็นทางการมากขึ้น และยังมักพบในสื่อ ข่าวสาร ป้ายโฆษณา หรือในบทเรียนทั่วไปอีกด้วย

เทคนิคจำง่าย ไม่ลืมเลขลำดับ

การจำเลขลำดับภาษาอังกฤษให้แม่นอาจดูยากในตอนแรก แต่หากใช้เทคนิคง่าย ๆ เช่น การฟังซ้ำ การฝึกอ่านออกเสียง และการจดจำรูปแบบคำ เช่น 1st = first, 2nd = second, 3rd = third ก็จะช่วยให้จำได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การใช้แฟลชการ์ด การดูวิดีโอสอน และฝึกเขียนประโยคโดยใส่เลขลำดับเข้าไปบ่อย ๆ ก็เป็นวิธีที่ดีในการฝึกความจำ การใช้ในชีวิตจริง เช่น การเขียนวันที่ในไดอารี่ หรือเล่าลำดับเหตุการณ์ในแต่ละวัน จะช่วยให้เราจำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลขลำดับ

หลายคนมักสงสัยว่าเลขลำดับกับเลขนับต่างกันอย่างไร คำตอบคือเลขลำดับใช้สำหรับแสดง “ลำดับ” ของสิ่งของ เช่น “ที่หนึ่ง”, “ที่สอง” ส่วนเลขนับคือ “หนึ่ง”, “สอง” ที่ใช้สำหรับนับจำนวน อีกคำถามที่พบบ่อยคือเลขไหนใช้ “st”, “nd”, “rd” หรือ “th” คำตอบคือ: 1 = st, 2 = nd, 3 = rd, ที่เหลือใช้ th แต่หากเป็นเลข 11, 12, 13 จะใช้ th เสมอ นอกจากนี้บางคนอาจถามถึงการใช้เลขลำดับกับวันที่ ซึ่งเราจะใช้กับวันที่ในเดือน เช่น “the 25th of December” ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก

บทสรุป

เลขลำดับภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 100 ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการเรียนภาษาอังกฤษ เพราะเราจะใช้มันบ่อยในชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องของวันเวลา การจัดอันดับ และการบอกตำแหน่งต่าง ๆ การเรียนรู้และจดจำเลขลำดับเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้เราใช้ภาษาได้ถูกต้องมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษอีกด้วย หากเราฝึกฝนเป็นประจำ เลขลำดับก็จะกลายเป็นสิ่งที่จำได้เองโดยอัตโนมัติ และนำไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Leave a Comment